Rocky Linux คือระบบปฏิบัติการลินุกซ์ (Linux Operating System) ที่พัฒนามาเพื่อเป็นทางเลือกแบบโอเพ่นซอร์ส (open-source) ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Gregory Kurtzer ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง CentOS ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอดีต การตัดสินใจเริ่มโครงการนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ CentOS ประกาศการเปลี่ยนแปลงไปสู่ CentOS Stream ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ดูแลระบบและองค์กรในด้านความเสถียรได้อย่างเต็มที่ Kurtzer จึงตัดสินใจสร้างโครงการใหม่ที่ตั้งชื่อว่า “Rocky Linux” เพื่อให้เกียรติแก่ Rocky McGaugh ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง CentOS ที่ได้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้
Rocky Linux มีเป้าหมายเพื่อให้เป็นระบบปฏิบัติการที่มีการสนับสนุนในระยะยาว (LTS) และรักษาความเข้ากันได้กับ Red Hat Enterprise Linux (RHEL) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการระบบที่มีความเสถียรสูงในการใช้งานในสภาพแวดล้อมของเซิร์ฟเวอร์ ทั้งในภาคธุรกิจและองค์กร การติดตั้งแพ็กเกจย่อยภายในสามารถใช้ได้ทั้ง RPM, TAR หรือใช้คำสั่ง DNF, YUM ในการอัปเดทซอฟต์แวร์แบบอัตโนมัติ สามารถอ่านรายละเอียดและดาวน์โหลดตัวติดตั้งได้ที่เว็บไซต์ https://rockylinux.org
ทำความรู้จัก Rocky Linux
ข้อดีของ Rocky Linux
Rocky Linux มุ่งเน้นที่จะเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และเข้ากันได้กับ RHEL โดยมีวิสัยทัศน์ดังนี้
1. ความเสถียรและความเข้ากันได้: Rocky Linux ถูกพัฒนาให้มีความเข้ากันได้กับ RHEL ทำให้ผู้ดูแลระบบที่คุ้นเคยกับ CentOS หรือ RHEL สามารถปรับตัวและใช้งานได้ทันที
2. ฟรีและขับเคลื่อนโดยชุมชน: Rocky Linux ให้บริการฟรีและขับเคลื่อนโดยชุมชนโอเพ่นซอร์ส จึงไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งานหรือการอัปเดต ผู้ดูแลระบบสามารถเข้าถึงและติดตั้ง Rocky Linux ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และยังสามารถขอรับการสนับสนุนจากชุมชนได้อย่างต่อเนื่อง
3. ระยะเวลาในการสนับสนุน: Rocky Linux มีแผนการสนับสนุนระยะยาวที่ชัดเจน ทำให้ผู้ใช้งานในองค์กรสามารถใช้งานระบบได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องอัปเกรดบ่อย ๆ
4. ความเสถียรสูง เหมาะสำหรับการผลิต (Production Environment): Rocky Linux ได้รับการพัฒนามาให้เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่ต้องการเสถียรภาพสูง เช่น ระบบที่ใช้งานในองค์กรหรือเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือในระยะยาว จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในระดับองค์กร
5. การสนับสนุนระยะยาว (Long-term Support): Rocky Linux มีแผนการสนับสนุนระยะยาว ซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลระบบมั่นใจได้ว่าระบบจะได้รับการอัปเดตและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถใช้งานได้ในระยะยาวโดยไม่ต้องอัปเกรดระบบบ่อยครั้ง
6. เครื่องมือที่คุ้นเคยและการจัดการที่สะดวก: Rocky Linux มีเครื่องมือและการตั้งค่าที่เหมือนกับ RHEL ทำให้ผู้ดูแลระบบที่เคยทำงานกับ RHEL หรือ CentOS สามารถจัดการระบบได้สะดวก เช่น การใช้ dnf ในการติดตั้งแพ็กเกจ, firewalld สำหรับการจัดการไฟร์วอลล์ และ SELinux ในการรักษาความปลอดภัยของระบบ
7. ความยืดหยุ่นในการจัดการระบบและการทำงานที่หลากหลาย: Rocky Linux สามารถใช้งานได้ทั้งในเซิร์ฟเวอร์ Web Server, Database Server, Application Server และการใช้งานด้านเน็ตเวิร์กอื่น ๆ ซึ่งทำให้ผู้ดูแลระบบมีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งและจัดการระบบได้ตามต้องการ
ทำไมต้องเลือกใช้ Rocky Linux
Rocky Linux ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรและเชื่อถือได้ และต้องการใช้ระบบที่ฟรีและไม่ขึ้นกับการสนับสนุนเชิงพาณิชย์ Rocky Linux จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับ
1. องค์กรที่ต้องการใช้งานระบบที่เสถียรในระยะยาว: ด้วยความเข้ากันได้กับ RHEL และการสนับสนุนระยะยาว Rocky Linux สามารถตอบโจทย์การใช้งานในองค์กรที่ต้องการระบบที่มีความน่าเชื่อถือ
2. ผู้ดูแลระบบที่คุ้นเคยกับ CentOS และ RHEL: Rocky Linux มีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับ RHEL จึงทำให้ผู้ดูแลระบบที่เคยใช้ CentOS หรือ RHEL สามารถปรับตัวได้ง่าย
3. ชุมชนโอเพ่นซอร์สและผู้ที่ชื่นชอบซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์ส: เนื่องจาก Rocky Linux ถูกขับเคลื่อนโดยชุมชนอย่างแท้จริง ผู้ใช้งานจึงสามารถเข้ามามีส่วนร่วมและช่วยพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้นได้
อนาคตของ Rocky Linux
ในอนาคต Rocky Linux ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อให้เข้ากับ RHEL และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในองค์กรและธุรกิจต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มฟีเจอร์ที่มีความยืดหยุ่นและปรับปรุงประสิทธิภาพให้สามารถรองรับการใช้งานในระยะยาว อีกทั้งยังมีการพัฒนาชุมชนเพื่อให้สามารถร่วมมือและสนับสนุนกันได้มากขึ้น